การถวายเครื่องสังเวยพระภูมิ แต่ละเดือน

การถวายเครื่องสังเวยพระภูมิ แต่ละเดือน 

การสักการะบูชาพระชัยมงคล  หรือองค์พระภูมินั้น  จะสักกการะเมื่อไหร่  เวลาใด  วันไหนสามารถทำได้ทั้งนั้น  มิได้จำกัดมิได้เหมือนกันตลอดไป  การถวายเครื่องสังเวยย่อมที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป  ตามแต่ละเดือนที่ได้กำหนดในพิธีกรรมโบราณ  ดังนั้น การบูชา การจัดเครื่องสังเวยและสิ่งของที่จะต้องใช้  ให้ถูกต้องตามเจตนา ก็ยิ่งจะเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้กับตนเอง และครอบครัวได้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป  ตามแต่ละเดือนที่หมุนเวียนกันไป  ดังต่อไปนี้.-

          เดือน 5 และ เดือน 6  เจ้ากรุงพาลี  ราชบิดาขององค์พระภูมิ  ท่านแปลงเพศเป็นยักษ์  มีความดุร้ายเป็นที่สุด การจัดเครื่องสักการะในเดือนนี้ ต้องมี กุ้งพล่า  ปลายำ เนื้อย่าง (จะเป็นเนื้อหมูหรืออะไรก็ได้ ) แต่ให้เป็นของสด ของคาว ก็จะเป็นที่พอใจของท่าน หากตั้งศาลในเดือนดังกล่าวนี้  ก็ให้สูงเท่าปาก ใช้ผ้าแดงปู  มีเหล้ายาสารพัด  เทียนขาว 9 เล่ม และเครื่องสังเวยอื่นๆ

           เดือน 7 และ เดือน 8  เจ้ากรุงพาลี  กลายเพศเป็นพราหมณ์สวยสดงดงาม ในเดือนดังกล่าวนี้  ให้งดเนื้อสัตว์และของคาวสารพัด  ใช้ผ้าขาวปูโต๊ะ  ถวายเป็นเครื่องสังเวยมังสวิรัติ

            เดือน 9 และ เดือน 10  เจ้ากรุงพาลี  กลายเพศเป็นราชสีห์ ด้วยความที่เป็นราชสีห์ท่านจึงชอบของสด ของคาว ใช้ผ้าเหลืองปูศาล จะเกิดลาภผลเหลือประมาณ ตามความต้องการ

           เดือน 11 และ เดือน 12  เจ้ากรุงพาลี  กลายเพศเป็นช้าง ตามความเชื่อแต่โบราณต้องมีหญ้าแพรก หญ้าปล้อง อย่างละ7  ใช้ผ้าดำปูศาล  จะเกิดลาภผลสวัสดี  ห้ามใช้ของคาว

          เดือนอ้าย และ เดือนยี่  เจ้ากรุงพาลี  กลายเพศเป็นนาคราช  ความเชื่อแต่ครั้งโบราณให้ตั้งศาลสูงแค่สะดือ  จะมีเกียรติยศ  ชื่อเสียงเลื่องลือไกล ของคาว ทั้งหลายให้นำมาถวายเป็นเครื่องสังเวย

           เดือนและ เดือน 4   เจ้ากรุงพาลี  กลายเพศเป็นครุฑ  ของสดของคาว กุ้งพล่า ปลายำ  เป็นสิ่งบันดาลโชคลาภ โทษภัยจะหนีห่าง  มีแต่ความสุขสำราญ

 ในการจัดเครื่องสังเวยถวายเพื่อเป็นสักการะนั้น  จะต้องทำให้ถูกต้องตามประสงค์  จึงจะเกิดลาภผล  ดลช่วยให้พ้นภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง  มีแต่โชคลาภนานาประการ